Skip to content

อบเชย เป็นเครื่องเทศที่ใครๆก็รู้จัก เพราะมักนำมาใช้ประกอบอาหาร ทำขนม และใส่ในเครื่องดื่มเป็นประจำ ส่วนในอดีตอบเชยเป็นหนึ่งในเครื่องยาของ “พิกัดตรีธาตุ” ประกอบด้วย กระวาน ดอกจันทน์ และอบเชย ใช้สำหรับเป็นยาแก้ธาตุพิการ แก้ลม แก้เสมหะ แก้ไข้ “พิกัดตรีทิพย์รส” ประกอบด้วย โกฐกระดูก เนื้อไม้ และอบเชยไทย มีสรรพคุณบำรุงธาตุ บำรุงกระดูก บำรุงตับปอดให้เป็นปกติ แก้ลมในกองเสมหะ บำรุงโลหิต “พิกัดจตุวาตะผล” ประกอบด้วยผล 4 อย่าง คือ เหง้าขิงแห้ง กระลำพัก อบเชยเทศ และโกฐหัวบัว มีสรรพคุณแก้ไข้ ขับผายลม บำรุงธาตุ รักษาริดสีดวง “พิกัดทศกุลาผล” คือการจำกัดจำนวนตัวยาตระกูลเดียวกัน 10 อย่าง มีชะเอมทั้ง 2 (ชะเอมไทย ชะเอมเทศ) ลูกผักชีทั้ง 2 (ผักชีล้อม ผักชีลา) อบเชยทั้ง 2 (อบเชยไทย อบเชยเทศ) ลำพันทั้ง 2 (ลำพันแดง ลำพันขาว) ลูกเร่วทั้ง 2 (เร่วน้อย เร่วใหญ่) มีสรรพคุณ แก้ไข้ ขับเสมหะ ขับลมในลำไส้ บำรุงธาตุ บำรุงปอด แก้อัมพฤกษ์ อัมพาต บำรุงกำลัง  แต่ปัจจุบันมีการศึกษาฤทธิ์ของอบเชยมากขึ้น พบว่าอบเชยมีสรรพคุณที่เหมาะสมกับการรักษาโรคยอดฮิตในปัจจุบัน ได้แก่ เบาหวาน ไขมัน ความดัน และอาการอื่นๆได้อีกมากมาย

อบเชยช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

ในทางแพทย์แผนจีนใช้อบเชยในการบำบัดและรักษาโรคเบาหวานชนิดที่2 ซึ่งเป็นโรคที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงตลอดเวลา อันเป็นผลจากความบกพร่องในการส่งสัญญาณอินซูลิน โดยในช่วงแรกของการดื้อต่ออินซูลิน ร่างกายพยายามปรับตัวให้มีการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่สามารถส่งสัญญาณหรือออกฤทธิ์ได้เป็นปกติผู้ป่วยจึงยังคงมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โดยในต้นอบเชยมีสารโพลีฟีนอลจำนวนมาก ซึ่งส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดช่วยทำให้ร่างกายมีความสามารถในการใช้อินซูลินเพื่อการสันดาปกลูโคสได้ดีขึ้น สามารถลดการดื้ออินซูลินทำให้เซลล์ต่างๆนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานให้หมดไปไม่ค้างอยู่ในเลือด

จากการศึกษาในหนูทดลองพบว่าอบเชยสามารถเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และลดระดับไตรีกลีเซอไรด์ในเลือดได้ และจากการศึกษาในผู้ป่วยเบาหวานพบว่าอบเชยนอกจากจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดแล้วยังช่วยปรับระดับไขมันในเลือดให้ดีขึ้นได้ โดยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและไตรกลีเซอไรด์ อย่างไรก็ตามในทางการแพทย์ปัจจุบันแม้มีงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า การรับประทานอบเชยหรือสารสกัดจากอบเชยอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่2 และผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ แต่เนื่องจากงานศึกษายังไม่เพียงพอทำให้อาจต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกว่า อบเชยจะสามารถรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานในระยะยาวได้หรือไม่ และมีความเสี่ยงมากน้อยขนาดไหนหากรับประทานอย่างต่อเนื่อง

อบเชยช่วยลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันเซลล์สมองฝ่อ

อบเชยถูกใช้ในการแพทย์แผนจีนอย่างแพร่หลาย ทำให้มีการศึกษาค้นคว้าและวิจัยถึงสรรพคุณของมันอยู่ตลอดพบว่า อบเชยสามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้ถึง94% และยังสามารถนำมาใช้รักษาและป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและเซลล์สมองฝ่อได้ นอกจากนี้ยังช่วยสลายลิ่มเลือด ขยายหยอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดไขมันกับความหนืดของเลือดได้ดีขึ้น รักษาการขาดแคลนโลหิตที่มาหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง89% และลดการเกิดลิ่มเลือดที่เกิดจากไขมันในเลือดสูงได้ถึง80%

อบเชยบรรเทาอาการปวดกระเพาะอาหารและกระเพาะลำไส้ได้

น้ำมันระเหยในเปลือกของต้นอบเชย โดยเฉพาะต้นอบเชยจีนนอกจากให้กลิ่นหอมยังมีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Helicobactor pyroli ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้นกระเพาะลำไส้ให้มีการบีบตัวแรงขึ้น เพิ่มน้ำย่อย ช่วยขับลม และคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบในกระเพาะลำไส้ จึงสามารถช่วยแก้อาการปวดกระเพาะและลำไส้ได้

เอกสารอ้างอิง
  1. Hajimonfarednejad M, Nimrouzi M, Heydari M, Zarshenas MM, Raee MJ, Jahromi BN. Insulin resistance improvement by cinnamon powder in polycystic ovary syndrome: A randomized double-blind placebo controlled clinical trial. Phytother Res. 2018 Feb;32(2):276-283. doi: 10.1002/ptr.5970. Epub 2017 Dec 18. PMID: 29250843.
  2. Zare R, Nadjarzadeh A, Zarshenas MM, Shams M, Heydari M. Efficacy of cinnamon in patients with type II diabetes mellitus: A randomized controlled clinical trial. Clin Nutr. 2019 Apr;38(2):549-556. doi: 10.1016/j.clnu.2018.03.003. Epub 2018 Mar 11. PMID: 29605574.
  3. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาอุบลราชธานี