Skip to content

ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารเสริมสำหรับภูมิคุ้มกัน

คุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ไม่รู้จะเลือกอาหารเสริมตัวไหนใช่ไหม?

ในยุคที่ภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หลายคนหันมาให้ความสนใจกับการเลือกอาหารเสริมที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บทความนี้จะตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารเสริม 2 ตัวที่กำลังเป็นที่นิยม ได้แก่ Betaglucan และ Zinc เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกรับประทาน
_________________________________________________________________________________

1. Beta-glucan 

ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

  • Beta-glucan: เสริมภูมิคุ้มกันโดยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดี

ส่วนผสมอื่นๆ ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันได้อย่างไร

  • Acerola Cherry: แหล่งของวิตามินซีธรรมชาติ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระลดอาการอักเสบ
  • Citrus Bioflavonoid: เพิ่มการดูดซึมของวิตามินและเสริมประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ
  • Grape Seed: ลดการอักเสบและปกป้องเซลล์จากความเสียหาย

Beta-glucan กับ Acerola Cherry เสริมภูมิคุ้มกันอย่างไร

  • Beta-glucan ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันโดยตรง ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานตลอดเวลา
  • Acerola Cherry และ Citrus Bioflavonoid เพิ่มการต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบและลดความเสียหายของเซลล์
  • เมื่อทำงานร่วมกัน จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันลดอาการอักเสบ ลดระยะเวลาและความรุนแรงเมื่อป่วย

เด็กทานได้ไหม

  • Betaglucan เป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเด็ก โดยเด็กเล็กสามารถรับประทาน Betaglucan ได้ 35 mg ต่อวัน ส่วนเด็กโตสามารถทานได้ถึง 100 mg ต่อวัน

ควรทาน Betaglucan ตอนไหน

  • Betaglucan ควรทานตอนท้องว่างเพื่อประโยชน์สูงสุด สามารถเพิ่มปริมาณได้เมื่อร่างกายอ่อนแอพักผ่อนน้อย

_________________________________________________________________________________

2. Zinc

ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

  • Zinc: เป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการส่งเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน มีประสิทธิภาพในการลดอาการอักเสบของร่างกาย นอกจากนี้แล้ว Zinc ยังเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนซ่อมแซมและบำรุงผิว ผม เล็บ

ส่วนผสมอื่นๆ ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันได้อย่างไร

  • Selenium: ต้านอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการทำงานของ Zinc
  • Vitamin D3: นอกจากช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและยังเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน
  • Magnesium: ช่วยคลายความเครียด คลายกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อ และช่วยการทำงานของระบบประสาท
Zinc กับ Selenium เสริมภูมิคุ้มกันอย่างไร?
  • Zinc ช่วยควบคุมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาวและช่วยลดการอักเสบ
  • Selenium ช่วยปกป้องเซลล์ภูมิคุ้มกันจากอนุมูลอิสระ และจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำงานร่วมกับ Zinc

Zinc ช่วยเรื่องสิวได้หรือไม่

  • สิวเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิต โดยพบว่า Zinc มีฤทธิ์ต้านการอักเสบจึงช่วยลดการอักเสบของสิวอักเสบได้ สำหรับคนที่มีปัญหาสิวควรทาน Zinc วันละ 15–30 มก.

มีอาการข้างเคียงไหม

  • จริงๆ แล้วผลข้างเคียงของ Zinc ไม่อันตรายเลย โดยพบว่าหากทาน Zinc ปริมาณสูง (มากกว่า 40 mg ต่อวัน) อาจทำให้คลื่นไส้หรือท้องเสีย

ควรทาน Zinc ตอนไหนดี

  • ควรทาน Zinc ทานพร้อมอาหาร เช่น มื้อกลางวันหรือเย็น เพื่อลดผลข้างเคียงของ Zinc และเพิ่มการดูดซึม Selenium และ Vitamin D3

เด็กสามารถทาน Zinc ได้ไหม

  • เป็นแร่ธาตุที่มีความปลอดภัยมากและจริงๆแล้วเด็กควรได้รับ Zinc 2-8 mg ต่อวัน โดยพบว่า Zinc นอกจากช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกันแล้วยังมีส่วนช่วยในด้านการเจริญเติบโตของเด็กอีกด้วย

Zinc สำคัญต่อเพศชายอย่างไร

  • Zinc มีหน้าที่สำคัญสำหรับผู้ชายโดยพบว่า Zinc เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ทำหน้าในการควบคุมสมดุลฮอร์โมนรวมไปถึงฮอร์โมนเพศชาย โดยพบว่าผู้ชายที่ขาด Zinc จะมีปริมาณอสุจิน้อยและคุณภาพอสุจิที่ไม่แข็งแรง

ถ้าเลือกไม่ถูก…ทำไมไม่ทานทั้งสองตัวเลยล่ะ?เพราะ Beta-glucan และ Zinc ทำงานร่วมกันได้ดี! ช่วยให้คุณมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ผิวสุขภาพดี และร่างกายสมดุล


เอกสารอ้างอิง
1. Dinu M, Pagliai G, Casini A, Sofi F. Nutraceuticals for the prevention of cognitive impairment in the elderly: A systematic review and meta-analysis. Nutrients [Internet]. 2023 Jan 5 [cited 2025 Feb 1];15(2):327. Available from: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9793387/

2. National Institutes of Health (NIH), Office of Dietary Supplements. Zinc – Health Professional Fact Sheet [Internet]. 2022 [cited 2025 Feb 1]. Available from: https://ods.od.nih.gov/factsheets/Zinc-HealthProfessional/

3. Wessels I, Maywald M, Rink L. Zinc as a gatekeeper of immune function. Nutrients [Internet]. 2017 May 17 [cited 2025 Feb 1];9(12):1286. Available from: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC6010824/