Skip to content

รู้จักสิวผด

แท้จริงแล้วสิวผดไม่ใช่สิว แต่เป็นผื่นชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ  มักขึ้นเป็นจำนวนมาก อาจมีสีแดงบริเวณรอบ ๆ บางคนอาจมีอาการคัน เวลาสัมผัสที่ผื่นจะรู้สึกสาก ๆ เป็นเม็ดๆ เล็กๆ สิวผดไม่ใช่สิวอุดตัน โดยทั่วไปสิวผดจะเห่อมากขึ้นในเวลากลางวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องออกไปเผชิญอากาศร้อน มลพิษ ฝุ่นละออง และสิวผดอาจยุบตัวลงเมื่ออากาศเย็น หรือหลังล้างทำความสะอาดหน้า

บริเวณที่มักเกิดสิวผด

  • หน้าผาก: การไว้ผมหน้าม้า การใช้มือจับหรือสัมผัสบริเวณหน้าผาก คนที่มีเหงื่อออกที่หน้าผากมาก มักเกิดสิวผดที่หน้าผากได้ง่าย นอกจากนี้การแพ้แชมพูสระผมก็เป็นปัจจัยให้เกิดสิวผดได้
  • แก้ม: การใช้เครื่องสำอางค์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวอาจเป็นสาเหตุให้เกิดสิวผดได้ นอกจากนี้การสวมหน้ากากอนามัย อาจส่งผลให้เกิดความอับชื้นทำให้เกิดสิวผด+ได้เช่นกัน
  • คาง: อาจเกิดจากการมีสิ่งสกปรกมาอุดตัน การสวมหน้ากากอนามัย ความมันของผิวบริเวณคางอาจเป็นสาเหตุให้เกิดสิวผดได้

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวผด

  1. สภาพอากาศ อากาศร้อน ทำให้เหงื่อออกเมื่อเจอกับฝุ่นละอองหรือมลภาวะ ก่อให้เกิดการสะสมและการอุดตันในที่สุด
  2. ฝุ่น มลภาวะ
  3. แสงแดด รังสี UV 
  4. เชื้อรา
  5. สภาพผิวอ่อนแอ ผิวแห้ง ก็ทำให้เกิดสิวผดได้ง่ายขึ้น 
  6. การใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองหรือเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว
  7. การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรือการล้างหน้าบ่อยจนเกินไป
  8. การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ

การดูแลรักษาเมื่อเป็นสิวผด

  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาะผิว อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย น้ำหอม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าจะต้องไม่ทำให้ผิวแห้งตึง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะต้องไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  2. หลีกเลี่ยงการรบกวนผิวบริเวณที่เกิดสิวผด เช่น การนวด การขัด แกะ ผิวใบหน้า เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และนำไปสู่การเกิดสิวอักเสบได้
  3. ดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี งดการล้างหน้าบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมันที่มากเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวหน้าแห้งกว่าเดิมได้
  4. พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดและรังสี UV ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF ไม่ต่ำกว่า 50 ที่สำคัญคือ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างมีคุณภาพ นอนไม่ต่ำกว่าวันละ 7 ชั่วโมง ทำจิตใจให้ผ่องใส ลดความเครียด
  6. ทานอาหารที่มีประโยชน์ ถูกสุขอนามัย ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้
  7. ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  8. การรักษาด้วยยา โดยทั่วไปแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ต้องรักษานานแค่ไหน สิวผดถึงจะหาย

โดยทั่วไปสิวผดรักษาไม่ยาก ผู้ที่เป็นสิวผดหากมีการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้น ดูแลผิวอย่างเหมาะสม สิวผดสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว

กรณีที่เป็นสิวผดไม่หายแม้ว่าจะดูแลปฏิบัติผิวหน้าอย่างดีแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

เอกสารอ้างอิง
  1. Plewig G., Jansen T. Acneiform dermatoses. DDermatology 1998;196:102-107.
  2. Goh C., Cheng C., Agak G., et al. Acneiform disorder. Fitzpatrick’s dermatology 9th ed. 1391-404.