Skip to content

รักษาผมร่วงไม่ใช่โรคที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่ส่งผลต่อจิตใจ ความมั่นใจ และรูปลักษณ์ภายนอก ก่อนอื่นเราทราบอยู่แล้วว่าโดยปกติเส้นผมคนเราอาจร่วงวันละ 40-100 เส้น และอาจร่วงได้ถึง 200 เส้นต่อวัน ในวันที่สระผม หากผมร่วงและมีการงอกทดแทนเส้นผมเดิม ก็อาจไม่ส่งผลให้เกิดปัญหาผมบางแต่กรณีที่ผมร่วงโดยไม่เกิดการงอกใหม่ก็จะส่งผลให้เกิดผมบางหรือหนังศีรษะล้านได้ ผมร่วงผมบางเกิดได้จากหลายปัจจัย ในวันนี้จะพูดถึงการรักษาผมร่วงและผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนด้วยวิธีการใช้ยา รวมถึงข้อมูลการศึกษาที่เกี่ยวข้อง

ผมร่วงมีหลายแบบ ผมร่วงชนิด Androgenetic alopecia (AGA) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรคผมร่วงและผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมน ซึ่งเป็นรูปแบบของผมร่วงที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก เกิดจากการตอบสนองต่อฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไป โรคผมร่วงผมบางแบบ AGA ถือว่าเป็นโรคที่ค่อนข้างท้าทายในการรักษา เนื่องจากมักเกิดเรื้อรัง เรามาดูกันว่ายาที่มีหลักฐานการใช้เพื่อรักษาผมร่วงมียาใดบ้าง

1. ยาทา Minoxidil 2-10% 

กลไก: เพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ
ผลข้างเคียง: ปวดศีรษะ, ภาวะที่มีการงอกของเส้นขนทั่วร่างกาย, ระคายเคืองบริเวณที่ทา, ผิวหนังอักเสบ
เพศ: ใช้ได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: พบว่าการทายา Minoxidil 2% และ 5% ทำให้ผมขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก เมื่อใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน จนถึง 1 ปี และพบว่า Minoxidil 5% มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2% อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Minoxidil ที่ความเข้มข้นสูงกว่า 5% ทำให้ผมขึ้นได้มากกว่าแต่พบว่ามักก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวบริเวณที่ทา

2. ยาทา 0.25% Finasteride

กลไก: ยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase
ผลข้างเคียง: การระคายเคือง, ผื่นแดง, ผิวหนังอักเสบ
เพศ: แนะนำในเพศชาย
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: พบว่าสเปรย์ 0.25% finasteride ช่วยให้ผมงอกในผู้ที่มีผมร่วงแบบ Male pattern hair loss เพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก และพบว่าการใช้ยาทา 0.5% finasteride ร่วมกับ 2% Minoxidil มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผมขึ้นในผู้ที่ผมร่วงแบบ female pattern hair loss

3. ยาทา 0.1% Latanoprost

กลไก: ช่วยยืด Growth phase ของเส้นผม
ผลข้างเคียง: การระคายเคือง
เพศ: ใช้ได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: มีการศึกษาทดลองใช้ยาทา 0.1% latanoprost ต่อเนื่องเป็นเวลา 24 สัปดาห์ พบว่ามีผมขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับก่อนเริ่มใช้ยาและเมื่อเทียบกับยาหลอก

4. ยากิน Finasteride

กลไก: ยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha-reductase
ผลข้างเคียง: อวัยวะเพศไม่แข็งตัว, เต้านมโต, ความต้องทางเพศลดลง
เพศ: แนะนำในเพศชาย
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: เป็นยาที่ได้รับการรับรองโดย FDA ตั้งแต่ปี 1997 สำหรับใช้รักษา male pattern hair loss

5. ยารับประทาน Minoxidil

กลไก: เพิ่มการไหลเวียนเลือด, กระตุ้นให้เกิดการเพิ่มจำนวนเซลล์รากผม, เพิ่ม endothelial growth factor
ผลข้างเคียง: วิงเวียนศีรษะ, ภาวะขนขึ้นทั่วร่างกาย, อาการบวมที่ขาส่วนล่าง
เพศ: ใช้ได้เพศชายและหญิง
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: Minoxidil ชนิดรับประทาน เป็นยาที่ไม่ได้รับการรับรองโดย FDA สำหรับข้อบ่งใช้ในการรักษาผมร่วง อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติมีการนำ Minoxidil ชนิดรับประทานมาใช้ในการรักษาโรคผมร่วง พบว่าการรับประทาน minoxidil ร่วมกับ spironolactone ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเส้มผมใน Female pattern hair loss มีการศึกษาเปรียบเทียบยาทา minoxidil 5% กับ minoxidil 1 mg ชนิดรับประทาน  พบว่ามีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน

การรับประทาน minoxidil 5 mg ทำให้เกิดภาวะขนขึ้นทั่วร่างกายได้มากกว่า 2.5 mg  พบว่า Minoxidil ชนิดทาทำให้เกิดผลข้างเคียงเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ (เช่น ความดันต่ำ หัวใจเต้นเร็ว น้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ แขนขาบวม) ได้น้อยกว่าชนิดรับประทาน ดังนั้น minoxidil ชนิดทาจึงเป็นที่นิยมมากกว่า

6. ยาฮอร์โมน Cyproterone acetate

กลไก: ช่วยเพิ่มปริมาณของเส้นผมที่อยู่ในระยะ Anagen phase 
ผลข้างเคียง: น้ำหนักเพิ่ม กดเจ็บที่เต้านม ความต้องการทางเพศลดลง
เพศ: หญิง
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: มีการศึกษาเปรียบเทียบการใช้ Cyproterone acetate เทียบกับยาทา 2%Minoxidil พบว่า Cyproterone acetate มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาอาการผมร่วงจากฮอร์โมนได้ดีกว่า

7. Janus-Kinase (JAK) inhibitors

กลไก: ยับยั้ง positive feedback loop ในการกระตุ้น interferon gamma ที่เซลล์รากผม
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: ยา Baricitinib ได้รับการรับรองโดย FDA ในปี 2022 เป็นยาที่มีประสิทธิภาพดีสำหรับใช้ในการรักษา Alopecia areata แต่ไม่ได้ผลสำหรับผมร่วงจากฮอร์โมน

8. ยา Spironolactone

กลไก: มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ลดการสร้าง testosterone มีอาการกดเจ็บที่เต้านม ประจำเดือนผิดปกติ
ผลข้างเคียง: เสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ความดันต่ำ
เพศ: หญิง
ผลลัพธ์จากการใช้ยา: ช่วยให้อาการผมร่วงจากฮอร์โมนชนิด Female pattern hair loss ซึ่งขนาดยาที่ใช้ในการรักษาคือ 12.5-200 mg ต่อวัน

9. วิตามินและแร่ธาตุ

พบว่าในเด็กที่ขาดสารอาหารมักเกิดอาการผมร่วงและเกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง พบว่าวิตามินดี ธาตุเหล็ก วิตามินบี12  โฟเลต วิตามินอี และซีลีเนียม เกี่ยวข้องกับเส้นผม มีการศึกษาผลของการให้วิตามินในผู้ที่มีปัญหาผมร่วงเทียบกับยาหลอกเป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่ากลุ่มที่ได้วิตามินเสริมมีการงอกของเส้นผมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
กลไก: เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการงอกของเส้นผม
เพศ: เพศหญิงและเพศชาย

10. Saw palmetto

กลไก: ยับยั้ง 5-alpha reductase
ผลข้างเคียง: อาจรู้สึกแสบร้อน (burning sensation)
เพศ: เพศหญิงและเพศชาย
ผลลัพธ์จากการรักษา: ในผู้ชายที่มีผมร่วงจากฮอร์โมนและพันธุกรรมที่ได้รับสารสกัด Saw palmetto พบว่ามีการงอกของเส้นผมมากขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกลุ่มที่ได้รับสารสกัด saw palmetto ขนาด 320 mg กับกลุ่มที่ได้รับ finasteride พบว่ากลุ่มที่ได้รับ finasteride ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

ในตอนที่ 1 นี้จะกล่าวถึงการรักษาผมร่วงด้วยการใช้ยาทาหรือยารับประทานที่มีการนำมาใช้เพื่อรักษาผมร่วง ซึ่งในการรักษาด้วยยาเพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพราะการใช้ยาอาจเกิดผลข้างเคียงหรืออันตรายได้หากใช้ไม่ถูกขนาดหรือถูกวิธี ในตอนหน้าจะพูดถึงการรักษาผมร่วงด้วยวิธีอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการใช้ยาและหลักฐานการศึกษาที่เกี่ยวข้อง อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ

เอกสารอ้างอิง
  1. Shivali D., Ogechi E., Kristen JK., Emma S., Maryanne S. Androgenetic alopecia: therapy update. Drug. 2023; 83(8):701-15.
  2. Esther JZ., Zbys F., Jan S. Interventions for female pattern hair loss. Cochrane database cyst rev. 2016 May 26(5):CD007628. doi: 10.1002/14651858.CD007628.pub4.