กรณีศึกษา ณ ร้านยาแห่งหนึ่ง
ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 58 ปี มีอาการปวดข้อเข่าเรื้อรัง โดยเฉพาะเวลาขึ้น–ลงบันได และรู้สึกขยับข้อลำบากหลังจากนั่งนานๆ จึงเข้ามาปรึกษาเภสัชกรประจำร้านยาเพื่อขอซื้อยาบรรเทาอาการปวดข้อเข่า
จากการซักประวัติเพิ่มเติม พบว่า ผู้ป่วยมีอาการปวดข้อเข่าเริ้อรังมาหลายปีแล้ว สืบเนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น (BMI = 28.84 จัดอยู่ในเกณฑ์ overweight) ก่อนหน้านี้ได้ซื้อซื้อยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs เพื่อบรรเทาอาการเป็นประจำ จนมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร อีกทั้งมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียงจากยาแก้ปวด จึงหยุดรับประทานไป อาการปวดข้อเข่าก็ยังรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เรื่อยมา
ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis), ความดันโลหิตสูง, และ ไขมันในเลือดสูง ยาที่รับประทานเป็นประจำ ได้แก่ Amlodipine 5 mg, Simvastatin 20 mg และ ยา NSAIDs เมื่อมีอาการปวดเข่า
จากการซักประวัติ พบว่าผู้ป่วยชอบรับประทานอาหารทอดและเนื้อแดง ดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจุบันเริ่มปรับพฤติกรรม ลดอาหารมัน–ทอด และเดินออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ยังไม่สม่ำเสมอ
จากกรณีศึกษานี้ที่มาปรึกษาที่ร้านยาเรื่องอาการปวดข้อเข่า เป็นเคสที่พบเจอได้บ่อยในร้านยา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไป ซึ่งมักมีโรคร่วม เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และน้ำหนักเกินที่ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น
การดูแลรักษาผู้ป่วยรายนี้ ไม่ควรมุ่งเน้นแต่เพียงแก้ไขอาการปวดในระยะสั้น แต่ควรร่วมกับการวางแผนการดูแลระยะยาว เพื่อให้คนไข้บรรเทาอาการได้โดยเร็ว และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำในอนาคต
🎯 ระยะสั้น (1–3 เดือน)
- ลดอาการปวดข้อและการอักเสบ
- เพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว
🌱 ระยะยาว (6–12 เดือน)
- ลดน้ำหนักลงอย่างน้อย 5–7% เพื่อช่วยลดแรงกดที่ข้อเข่า
- ชะลอความเสื่อมของข้อและลดการพึ่งพายาแก้ปวด
- ควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์
- เพิ่มคุณภาพชีวิต ทำกิจวัตรประจำวันได้คล่องขึ้น
🧩 การดูแลแบบองค์รวม
หัวใจสำคัญคือ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงของทอด เนื้อแดง และเกลือโซเดียมสูง
- เลือกอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทะเลน้ำลึก ขมิ้นชัน และผักผลไม้
- ออกกำลังกายแบบ Low-impact เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ควบคู่กับการเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า
- เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า ด้วยการฝึก resistance training สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- ฝึกยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (flexibility) 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์
- ใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น support เข่า เพื่อแบ่งเบาแรงกด
การรักษาอาการปวดข้อเข่า มักเริ่มจากการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs แต่หากใช้ต่อเนื่องนานๆ อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตสูง หรือผลต่อไตและหัวใจ ซึ่งในผู้ป่วยรายนี้มีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมด้วย จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยา ดังนั้นหัวใจสำคัญของการรักษาโรคคือควรทำให้อาการปวดหายไปโดยเร็วที่สุด และลดการใช้ยาให้น้อยที่สุด
อีกทางเลือกหนึ่งนอกจากการปรับพฤติกรรมด้านอาหารและการออกกำลังกายที่เป็นหัวใจสำคัญในการดูแลสุขภาพระยะยาวแล้ว ยังมีสารอาหารบางตัวที่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับว่าสามารถช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวด และส่งเสริมสุขภาพข้อได้ เช่น
🌱Primary recommendations
- Collagen type II (Undenatured) 40 mg/day → ช่วยลดอักเสบและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อ
- Fish oil (EPA+DHA) 2000–3000 mg/day → ลดอักเสบและช่วยปรับไขมันในเลือด
- Curcumin extract 500–1000 mg/day → มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
🌱Secondary recommendations
- Glucosamine sulfate 1500 mg/day
- Chondroitin sulfate 800–1200 mg/day
- Magnesium 500 mg/day → ช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดความดัน
- Coenzyme Q10 100 mg/day → เสริมสุขภาพหัวใจ
- Garlic extract 600–1200 mg/day → ช่วยลดความดัน น้ำตาล และ LDL
🌱Optional เพื่อดูแลสุขภาพของกระดูก
- Calcium 1200 mg/day
- Vitamin D3 1000–2000 IU/day
- Vitamin K2 75 mcg/day
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ผู้ป่วยต้องมีส่วนร่วมในการปรับวิถีชีวิตอย่างจริงจัง จึงจะช่วยลดอาการ ชะลอความเสื่อม และเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ในระยะยาว
เอกสารอ้างอิง
- Rakel, David P. Integrative Medicine – E-Book (pp. 1909–1910). Elsevier Health Sciences.
- Xu R, Wu J, Zheng L, Zhao M. Undenatured type II collagen and its role in improving osteoarthritis. Ageing research reviews. 2023 Nov 1;91:102080.
- Goldberg R.J, Katz J. A meta-analysis of the analgesic effects of omega-3 polyunsaturated fatty acid supplementation for inflammatory joint pain. Pain. 2007;129:210–223.
- Deng W, Yi Z, Yin E, Lu R, You H, Yuan X. Effect of omega-3 polyunsaturated fatty acids supplementation for patients with osteoarthritis: a meta-analysis. Journal of Orthopaedic Surgery and Research. 2023 May 24;18(1):381.
- Mathy-Hartert M, Jacquemond-Collet I, Priem F, Sanchez C, Lambert C, Henrotin Y. Curcumin inhibits pro-inflammatory mediators and metalloproteinase-3 production by chondrocytes. Inflammation Research. 2009 Dec;58(12):899-908.
- Zeng L, Yu G, Hao W, Yang K, Chen H. The efficacy and safety of Curcuma longa extract and curcumin supplements on osteoarthritis: a systematic review and meta-analysis. Bioscience reports. 2021 Jun;41(6):BSR20210817.
- Kelly G.S. The role of glucosamine sulfate and chondroitin sulfates in the treatment of degenerative joint disease. Altern Med Rev. 1998;3:27–39.
- Constantz R. Hyaluronan, glucosamine and chondroitin sulfate: roles for therapy in arthritis. In: Kelley W, ed. Textbook of Rheumatology. ed 5. Philadelphia: Saunders; 1998.
- Sontia B, Touyz RM. Role of magnesium in hypertension. Archives of biochemistry and biophysics. 2007 Feb 1;458(1):33-9.
- Rosenfeldt FL, Haas SJ, Krum H, Hadj A, Ng K, Leong JY, Watts GF. Coenzyme Q10 in the treatment of hypertension: a meta-analysis of the clinical trials. Journal of human hypertension. 2007 Apr;21(4):297-306.
- Parastouei K, Ravanshad SH, Mostaphavi H, Setoudehmaram E. Effects of garlic tablet on blood sugar, plasma lipids and blood pressure in type 2 diabetic patients with hyperlipidemia. Journal of Medicinal Plants. 2006 Mar 10;5(17):48-54.
- Capozzi A, Scambia G, Lello S. Calcium, vitamin D, vitamin K2, and magnesium supplementation and skeletal health. Maturitas. 2020 Oct 1;140:55-63.
