Skip to content

Overnight Oatmeal อาหารเช้าง่ายๆจากข้าวโอ๊ต

ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบการหาเวลารับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์อาจเป็นเรื่องท้าทาย ข้าวโอ๊ตค้างคืน (Overnight Oatmeal) เป็นทางเลือกที่สะดวกและอร่อย ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเวลาและพลังงานในตอนเช้า

ข้าวโอ๊ตค้างคืน (Overnight Oatmeal) คือ ข้าวโอ๊ตที่นำไปแช่ในนม (นมวัว นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ ฯลฯ) และทิ้งค้างคืนไว้จนข้าวโอ๊ตดูดของเหลวเข้าไปจนพอง วิธีรับประทานก็คือใส่ผลไม้และถั่วลงไป แล้วเติมความหวานตามชอบด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ล

วิธีทำ Overnight oatmeal

  1. ใส่ข้าวโอ๊ตลงในขวดโหลหรือภาชนะที่ปิดมิดชิด
  2. เทนมหรือน้ำลงไป ปริมาณนมหรือน้ำขึ้นอยู่กับความชอบ โดยทั่วไปจะใช้นมหรือน้ำ 1 ถ้วยตวงต่อข้าวโอ๊ต 1/2 ถ้วยตวง
  3. ใส่ผลไม้ ถั่ว เมล็ดธัญพืช หรือท็อปปิ้งอื่นๆ ตามชอบ
  4. ปิดฝาภาชนะ นำไปแช่ในตู้เย็นข้ามคืน
  5. เมื่อตื่นนอนตอนเช้า Overnight oatmeal ก็พร้อมทาน

สามารถปรับเปลี่ยนสูตรได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบและวัตถุดิบที่มี

คุณค่าทางโภชนาการ

โดยปริมาณ ข้าวโอ๊ต 78 กรัม (1/2 ถ้วยตวง) จะให้สารอาหารและพลังงานแคลอรี่ ดังนี้

  • พลังงาน: 303 แคลอรี่
  • โปรตีน (Protein): 13 กรัม
  • ไขมัน (Fat): 5 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate): 51 กรัม
  • เส้นใยอาหาร (Fiber): 8 กรัม
  • แมงกานีส (Manganese): 191% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
  • ฟอสฟอรัส (Phosphorus): 41% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
  • แมกนีเซียม (Magnesium): 34% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
  • ธาตุเหล็ก (Iron): 20% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน

ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชที่ปลูกอย่างแพร่หลายซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากองค์ประกอบทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสารประกอบทางชีวภาพ โดยข้าวโอ๊ต มีเบต้ากลูแคนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งมีโครงสร้าง Beta 1,3/1,4 glucan เป็นที่รู้จักในเรื่องการลดคอเลสเตอรอลและลดอาการเบาหวานทำให้เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญในข้าวโอ๊ต นอกเหนือจากเบต้ากลูแคนแล้วยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ เช่น กรดฟีโนลิก โทคอล สเตอรอล อะเวนาโคไซด์ และอะเวนแทรไมด์ซึ่งมีส่วนช่วยในการส่งเสริมสุขภาพ การบริโภคข้าวโอ๊ตช่วยเสริมการสร้างภูมิคุ้มกัน ปรับปรุงจุลินทรีย์ในลำไส้ และช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ เช่น หลอดเลือดหลอดเลือดโรคผิวหนังและมะเร็งบางชนิด เน้นถึงประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมของการรวมข้าวโอ๊ตเข้าไปในอาหาร

ประโยชน์ของข้าวโอ๊ตค้างคืน

  • ใยอาหาร: ข้าวโอ๊ตมีใยอาหารสูง โดยเฉพาะเบต้ากลูแคน (Beta-Glucan) ซึ่งช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • วิตามินและแร่ธาตุ: ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แมงกานีส และวิตามินกลุ่ม B
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ข้าวโอ๊ตมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ชะลอวัย และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: ข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ย่อยช้า ช่วยให้อิ่มท้องนาน และให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง

ข้าวโอ๊ตค้างคืนเหมาะกับใคร

ข้าวโอ๊ตค้างคืนเหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะ

  • ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก: โอ๊ตมีลช่วยให้อิ่มท้องนาน ช่วยลดความอยากอาหาร และเผาผลาญแคลอรี่ได้ดี
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร: ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
  • ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพหัวใจ: ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  • นักกีฬา: ให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับทานก่อนออกกำลังกาย

ข้าวโอ๊ตค้างคืนเป็นตัวเลือกอาหารเช้าที่สะดวกและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารที่สมดุล มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานข้าวโอ๊ตในนมข้ามคืนสามารถช่วยรักษาดัชนีน้ำตาลในเลือดให้ต่ำและอินซูลินได้ ทำให้เหมาะสำหรับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้การรวมนมและข้าวโอ๊ตเข้ากับองค์ประกอบอาหารเป็นทางเลือกที่สะดวกช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการโดยรวมของมื้ออาหาร เป็นตัวเลือกอาหารเช้าที่หลากหลายและใส่ใจต่อสุขภาพสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

เอกสารอ้างอิง
  1. Devendra, Paudel., Bandana, Dhungana., Melanie, Caffe., Padmanaban, G., Krishnan. A Review of Health-Beneficial Properties of Oats.. Foods, (2021).;10(11):2591-. doi: 10.3390/FOODS10112591
  2. Thomas, M.S., Wolever., Peter, B., Jones., Alexandra, L, Jenkins., Rebecca, C., Mollard., Haizhou, Wang., Alie, J., Johnston., Jodee, Johnson., YiFang, Chu. Glycaemic and insulinaemic impact of oats soaked overnight in milk vs. cream of rice with and without sugar, nuts, and seeds: a randomized, controlled trial.. European Journal of Clinical Nutrition, (2019).;73(1):86-93. doi: 10.1038/S41430-018-0329-1