Skip to content

Vitamin C เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในผักใบเขียวและผลไม้รสเปรี้ยว โดยปัจจุบันเป็นอาหารเสริมที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้จักในด้านอาหารเสริมภูมิต้านทาน นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสอีกด้วย

ภูมิแพ้แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

โรคภูมิแพ้ (Allergy) เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายไวต่อ สารก่อภูมิแพ้ (Allergen) มากเกินไป เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เป็นต้น เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารเหล่านี้ทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ เช่น อาการผื่นคัน ไอเนื่องจากคันในลำคอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ตาแดง โดยในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดอาการ หอบเหนื่อย ท้องเสียรุนแรง เป็นต้น

โรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ (Allergic rhinitis) เป็นหนึ่งในโรคภูมิแพ้ที่คนไทยส่วนใหญ่เป็น เนื่องจากปัจจุบันมลภาวะทางอากาศของประเทศไทยที่มีฝุ่นในอากาศปริมาณมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ และมีแนวโน้มที่คนไทยจะเป็นโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี

โรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบเรื้อรังเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคหอบหืด โรคริดสีดวงโพรงจมูก โรคหูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น

Vitamin C จะช่วยผู้ป่วยภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบได้อย่างไร ?

  1. ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คุณสมบัติของวิตามินซีที่โดดเด่นในด้านการต้านอนุมูลอิสระช่วยให้อาการอักเสบบริเวณโพรงจมูกของผู้ป่วยที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระลดลง และทำให้การอักเสบเกิดได้ยากขึ้น
  2. ลดการหลั่งฮิสตามีน (Histamine Regulation) นอกจากนี้ปริมาณของ ascorbic acid ในกระแสเลือดยังช่วยให้การหลั่งของสารฮิสตามีน (histamine) เมื่อถูกกระตุ้นโดยสารก่อภูมิแพ้ลดลง ซึ่งการหลั่งของสารดังกล่าวเป็นสาเหตุของโพรงจมูกอักเสบ
  3. สร้างสมดุลการทำงานของภูมิคุ้มกัน (Immune Support) วิตามินซีนอกจากช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแล้ว ยังทำให้ภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้ได้ยากขึ้น แต่จะเฉพาะเจาะจงกับเชื้อก่อโรคมากกว่าเดิม การรับประทานวิตามินซีเป็นประจำถือเป็นการสร้างสมดุลให้ภูมิคุ้มกันเป็นอย่างดี
  4. ลดระยะเวลาของอาการ (Symptom Reduction) จากคุณสมบัติดังที่กล่าวมาข้างต้น จะทำให้ระยะเวลาของอาการภูมิแพ้ของผู้ป่วยลดลง ลดระยะเวลาของอาการภูมิแพ้ จึงทำให้โอกาสที่โรคจะพัฒนาต่อไปน้อยลง

การรับประทานวิตามินซี

การรับประทานวิตามินซีควรรับประทานหลังอาหารเช้าทันที เพื่อลดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร โดยเลือกรับประทานในรูปแบบวิตามินซีจากธรรมชาติ หรือรูปแบบที่ควบคุมการปลดปล่อย เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินซีได้ตลอดทั้งวัน โดย Thai RDI (Thai Recommend Daily Intake) แนะนำให้ทานวิตามินซีขั้นต่ำ 60 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนี้ในผู้ใหญ่สามารถทานวิตามินซีเสริมสุขภาพและภูมิต้านทานได้ในขนาด 500 – 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน

เอกสารอ้างอิง
  1. สมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืด และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย
  2. Ghalibaf MHE, Kianian F, Beigoli S, Behrouz S, Marefati N, Boskabady M, Boskabady MH. The effects of vitamin C on respiratory, allergic and immunological diseases: an experimental and clinical-based review. Inflammopharmacology. 2023 Apr;31(2):653-672. doi: 10.1007/s10787-023-01169-1. Epub 2023 Feb 27. PMID: 36849854; PMCID: PMC9970132.