ในยุคที่คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น หนึ่งในสารอาหารที่เริ่มได้รับความสนใจจากทั้งวงการวิจัยและผู้บริโภคคือ เควอร์เซทิน (Quercetin) ซึ่งเป็นสารประกอบจากธรรมชาติในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ทรงพลัง
แม้จะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูเท่าวิตามิน C หรือโอเมก้า-3 แต่ Quercetin กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นจากการศึกษาทางคลินิกที่แสดงให้เห็นว่า มันอาจมีบทบาทในหลายกลไกของร่างกาย ทั้งในการป้องกันโรค ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงหัวใจ สมอง และช่วยต้านการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) หลายชนิด
Quercetin คืออะไร?
Quercetin เป็นสารประกอบประเภทฟลาโวนอยด์ในกลุ่ม flavonol ซึ่งพบได้ในพืชหลากหลายชนิด เช่น หัวหอมแดง แอปเปิล องุ่นแดง ชาเขียว และผักตระกูลกะหล่ำ โดยทั่วไปสารฟลาโวนอยด์มีบทบาทในการปกป้องพืชจากแสงแดด รังสี UV และเชื้อโรค ในขณะเดียวกัน เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ก็สามารถให้ประโยชน์หลากหลายเช่นเดียวกัน
คุณสมบัติหลักของ Quercetin คือ ต้านอนุมูลอิสระ และ ลดการอักเสบ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการชะลอกระบวนการเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง และสนับสนุนระบบต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลไกการออกฤทธิ์ของ Quercetin ที่สำคัญ
- ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant):
Quercetin มีโครงสร้างทางเคมีที่สามารถจับกับอนุมูลอิสระ (free radicals) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรและทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ หากสะสมมากอาจนำไปสู่การอักเสบเรื้อรัง โรคหัวใจ มะเร็ง และโรคทางสมอง - ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory):
งานวิจัยหลายฉบับระบุว่า Quercetin ช่วยยับยั้งการผลิตสารอักเสบในร่างกาย เช่น interleukins (IL-1β, IL-6), TNF-α และ prostaglandins ซึ่งมีบทบาทสำคัญในโรคอักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบ ภูมิแพ้ และโรคลำไส้อักเสบ - ปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน:
Quercetin มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจช่วยลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสบางชนิดได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับวิตามิน C และ Zinc ซึ่งมีการศึกษาบางส่วนในผู้ป่วย COVID-19 ที่แสดงผลเชิงบวกในกลุ่มทดลอง - ยับยั้งเอนไซม์สำคัญในร่างกาย:
Quercetin สามารถยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบ เช่น COX-2, lipoxygenase และ NADPH oxidase อีกทั้งยังยับยั้งเอนไซม์บางตัวในตับที่ใช้ในการเมตาบอไลซ์ยา (CYP450) ซึ่งอาจมีผลต่อการใช้ยาร่วมกัน
ประโยชน์ด้านสุขภาพที่ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง
1. สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
มีงานวิจัยในมนุษย์ที่แสดงว่า Quercetin อาจช่วยลดความดันโลหิต systolic และ diastolic ได้เล็กน้อย ช่วยลดไขมัน LDL และเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ metabolic syndrome หรือโรคหัวใจอยู่แล้ว
2. ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
จากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบ Quercetin มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มะเร็งบางชนิด (โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม) รวมถึงโรคตับและโรคไตบางประเภท
3. ช่วยเรื่องภูมิแพ้และปัญหาระบบทางเดินหายใจ
Quercetin เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านฮีสตามีนตามธรรมชาติ จึงอาจช่วยลดอาการจาม น้ำมูกไหล และคัดจมูกที่เกิดจากภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังมีการนำไปศึกษาในผู้ป่วยโรคหอบหืดและหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
4. บำรุงสมองและระบบประสาท
สารต้านอนุมูลอิสระอย่าง Quercetin อาจมีส่วนช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมองในผู้สูงอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน เนื่องจากสามารถผ่านแนวกั้นเลือด-สมอง (blood-brain barrier) และลดการอักเสบในสมองได้
ข้อควรระวังในการใช้ Quercetin
แม้ Quercetin จากแหล่งธรรมชาติจะมีความปลอดภัย แต่การใช้ในรูปแบบอาหารเสริมควรระมัดระวัง โดยเฉพาะในผู้ที่
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ, โรคตับ, โรคไต
- ใช้ยา warfarin, aspirin, หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ใช้ยาเบาหวาน หรือยาควบคุมความดันโลหิต
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร (ควรหลีกเลี่ยงการใช้จนกว่าจะมีข้อมูลความปลอดภัยที่ชัดเจน)
การใช้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา หรือการใช้ในขนาดที่ไม่เหมาะสม
คำแนะนำสำหรับการนำไปใช้
- การบริโภค Quercetin ผ่านอาหารธรรมชาติ เช่น ผักผลไม้หลากสี เป็นวิธีที่ปลอดภัยและให้ผลสะสมในระยะยาว
- การเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรเลือกแบรนด์ที่มีมาตรฐาน ผ่านการทดสอบ และควรมีคำแนะนำเรื่องขนาดการใช้ที่ชัดเจน
- การใช้ร่วมกับวิตามิน C และ Zinc อาจเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่มีการระบาดของไข้หวัดหรือภูมิแพ้
สรุป
Quercetin เป็นสารฟลาโวนอยด์จากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ทั้งด้านภูมิคุ้มกัน หัวใจ สมอง และระบบอักเสบเรื้อรัง แม้ว่าจะยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในบางด้าน แต่ข้อมูลในปัจจุบันก็ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าสนใจของสารนี้ในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้ร่วมกับวิถีชีวิตที่ดี เช่น การกินอาหารสมดุล ออกกำลังกาย และการพักผ่อนให้เพียงพอ
หากใช้ด้วยความรู้ ความเข้าใจ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Quercetin อาจเป็นอีกหนึ่ง “กุญแจ” ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง (References)
- Li, Y., Yao, J., Han, C., et al. (2016). Quercetin, Inflammation and Immunity. Nutrients, 8(3), 167. https://doi.org/10.3390/nu8030167
- Boots, A. W., Haenen, G. R., & Bast, A. (2008). Health effects of quercetin: from antioxidant to nutraceutical. Eur J Pharmacol, 585(2-3), 325–337.
- Colunga Biancatelli, R. M. L., et al. (2020). Quercetin and Vitamin C: An Experimental, Synergistic Therapy for the Prevention and Treatment of SARS-CoV-2 Related Disease (COVID-19). Frontiers in Immunology, 11, 1451.
- D’Andrea, G. (2015). Quercetin: A flavonol with multifaceted therapeutic applications?. Fitoterapia, 106, 256–271.
