หน้าร้อนปีนี้ อุณหภูมิพุ่งสูงปรอทแตก หลายคนคงต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่รู้หรือไม่ว่าภัยร้ายจากความร้อนแฝงตัวอยู่ใกล้ๆ “โรคลมแดด” หรือ “ฮีทสโตรก” ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต!
โรคลมแดด หรือภาวะฉุกเฉินจากความร้อน (Heatstroke) เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไปจนอุณหภูมิภายในร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูร้อน หรือบริเวณที่มีความชื้นสูง ซึ่งส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาท หัวใจ และไต
โรคลมแดด หรือภาวะฉุกเฉินจากความร้อน (Heatstroke) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
1. โรคลมแดดที่เกิดจากการออกกำลังกาย (Exertional Heatstroke)
มักพบในนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายหนักในอากาศร้อนจัด สาเหตุหลักมาจากร่างกายสูญเสียเหงื่อและเกลือแร่ ทำให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน
2. โรคลมแดดที่ไม่ได้เกิดจากการออกกำลังกาย (Non-exertional or classic heatstroke)
มักพบในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก และผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน สาเหตุหลักมาจากร่างกายไม่สามารถปรับตัวต่อสภาพอากาศร้อนจัดได้ทัน
จากประเภทของโรคลมแดด จะเห็นว่าทั้งนักกีฬาที่แข็งแรง ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ก็สามารถ มีโอกาสเกิดโรคลมแดดได้เสมอ ดังนั้นการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
สังเกตตนเองและคนรอบข้างหากมีอาการ ดังนี้
- ความรู้สติลดลง มีความสับสน กระวนกระวาย เพ้อ
- ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ อ่อนแรง
- ผิวหนังแห้งแดงร้อน อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส
- เหงื่อออกมากผิดปกติหรือไม่มีเหงื่อเลย
- กล้ามเนื้อหดเกร็ง ชัก
- เป็นลมหมดสติ
หากมีการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน ควรสังเกตตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ หากมีอาการดังกล่าว คือปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือโทรแจ้งสายด่วนเจ็บป่วยฉุกเฉิน
…แล้วหากพบผู้เป็นโรคลมแดด ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไร ?…
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- แจ้งสายด่วนเจ็บป่วยฉุกเฉิน
- พาผู้ป่วยเข้าสู่พื้นที่ร่ม หรือพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
- หากผู้ป่วยใส่ชุดหนา รัดแน่น ให้ถอดหรือคลายเครื่องแต่งกายออก
- ระบายความร้อนในร่างกายผู้ป่วยด้วยความเย็น เช่น ผ้าชุบน้ำ ถุงน้ำแข็ง โดยประคบหรือวางบริเวณ หน้าผากและข้อพับต่างๆ เช่น คอ รักแร้และขาหนีบ หรือใช้น้ำสเปรย์หรือราดตัวผู้ป่วยได้เลย
การป้องกันและหลีกเลี่ยงโรคลมแดด
- การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน
- การสวมใส่เครื่องแต่งกายที่ไม่หนา ไม่รัดแน่น โปร่งโล่ง ถ่ายเทอากาศได้ดี
- การทาครีมกันแดดอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งที่มีอากาศร้อน หรือบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก