ข้ออักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย และมักส่งผลต่อการดำเนินชีวิต โดยชนิดที่พบบ่อย ได้แก่ โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis, OA) และ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis, RA) ที่มีลักษณะสำคัญคือ ปวดข้อ ข้อบวม ข้อติดและเคลื่อนไหวลำบาก ซึ่งเกิดจากการเสื่อมของกระดูกอ่อนที่ผิวข้อ ร่วมกับการอักเสบเรื้อรัง
ปัจจุบันมีการค้นพบว่า พืชสมุนไพรหลายชนิด มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อข้อต่อ เนื่องจากมี สารไฟโตเคมิคอล (phytochemicals) ที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา เช่น ต้านการอักเสบ บรรเทาอาการปวด และต้านอนุมูลอิสระ หนึ่งในนั้นคือ ทามารีน หรือ มะขาม และ ขมิ้นชัน นั่นเอง
ทามารีน (Tamarind)
ทามารีน (Tamarind) หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า “มะขาม” เป็นพืชในตระกูล Fabaceae ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tamarindus indica ทามารีนเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยย่อยอาหาร ใช้เป็นยาช่วยระบาย นอกจากนั้นยังมีสรรพคุณต่างๆที่ช่วยลดอาการปวดข้อและการเสื่อมของข้อต่อได้ด้วย เช่น
1. มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory Effects)
สารสกัดจากเปลือกและเมล็ดของทามารีนมีสารสำคัญ เช่น โปรแอนโธไซยานิดิน (proanthocyanidins), ฟลาโวนอยด์ (flavonoids), และ แทนนิน (tannins) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ช่วยยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase (COX) และ lipoxygenase (LOX) ซึ่งเป็นเอนไซม์สร้างสารกระตุ้นการอักเสบ เช่น prostaglandins และ leukotrienes
2. ช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายเนื้อเยื่อข้อต่อ
ทามารีนมีส่วนช่วยลดการเสื่อมของกระดูกอ่อนในข้อต่อ เนื่องจากมีสารโพลีฟีนอล (polyphenol) ที่ช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการทำลายเนื้อเยื่อข้อต่อ เช่น MMPs (matrix metalloproteinases) และ Hyaluronidases (HAase) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างคอลลาเจน (collagen), ไฮยาลูโรแนน (hyaluronan หรือ hyaluronic acid) และแอกเกรแคน (aggrecan) ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โดยเฉพาะใน “กระดูกอ่อนข้อ” (articular cartilage)
3. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ทามารีนช่วยลดภาวะ oxidative stress โดยลดสารอนุมูลอิสระ เช่น ROS และไฮโดรเปอร์ออกไซด์ (hydroperoxides) ที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย พร้อมทั้งช่วยรักษาสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกายในอยู่ระดับปกติ
ขมิ้นชัน (Curcuma longa)
ขมิ้นชัน (Curcuma longa) เป็นพืชสมุนไพรในวงศ์ Zingiberaceae ที่ใช้ในแพทย์แผนโบราณมาอย่างยาวนาน ทั้งในรูปแบบการรับประทานและการใช้ภายนอก สารสำคัญทางชีวภาพที่มีฤทธิ์เด่นในขมิ้นชันคือ เคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มโพลีฟีนอลที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการทำลายกระดูกอ่อน ได้
1. ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
Curcumin สามารถยับยั้งการส่งสัญญาณของ NF-κB (Nuclear Factor-kappa B) ที่ควบคุมการสร้างไซโตไคน์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น TNF-α, IL-1β, IL-6 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำลายกระดูกอ่อน
2. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
Curcumin ทำหน้าที่เป็น ROS scavenger ช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระชนิด ROS (reactive oxygen species) ซึ่งหากร่างกายมี ROS ปริมาณมากจะส่งผลต่อการเกิดการอักเสบที่เป็นสาเหตุของโรคข้อเสื่อมตามมา
3. ช่วยยับยั้งการทำลายกระดูกอ่อน
Curcumin มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ matrix metalloproteinases (MMPs) โดยเฉพาะ MMP-3 และ MMP-13 ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำให้โครงสร้างของกระดูกอ่อนเสื่อมสลาย โดยเฉพาะในโรคข้อเข่าเสื่อม
4. ควบคุมการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน
ในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) เคอร์คูมินมีฤทธิ์ลดการทำงานของ T-cell และ macrophage ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบแบบเรื้อรัง
งานวิจัย
จากการศึกษาแบบ randomized, double-blind, placebo-controlled trial ของ Prasad และคณะ ในปี 2023 ที่ศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดมะขาม(Tamarindus indica) และขมิ้นชัน(Curcuma longa) ต่อผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง จำนวน 44 คน เป็นเวลา 30 วัน พบว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดจากเมล็ดมะขามและขมิ้นชันปริมาณ 250 มิลลิกรัม/วัน มีคะแนน WOMAC (วัดอาการปวด ความฝืด และการทำงานของข้อเข่า) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p 0.001) เมื่อเทียบกับ baseline โดยลดลง 19.79% ในวันที่ 5 และ 38.11% ในวันที่ 30 รวมถึงมีค่า hs-CRP จากเลือด ที่บ่งชี้ถึงการอักเสบลดลง 45.14% และ ค่า CTX-II ที่บ่งชี้ถึงการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อนในข้อเข่า ลดลง 25.56%
การศึกษาแบบ randomized controlled trial (RCT) พบว่าเมื่อรับประทาน Curcumin ขนาด 500-1000 มก./วัน เป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ ช่วยลดคะแนน WOMAC (Western Ontario and McMaster Universities Osteoarthritis Index) และ VAS (Visual Analog Scale) ได้อย่างมีนัยสำคัญเทียบเท่ากับยา NSAIDs เช่น ibuprofen และ diclofenac โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร
มีการศึกษาของ Chandran & Goel ปี 2012 ในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) พบว่าเมื่อรับประทาน Curcumin ขนาด 500 มก./วัน ช่วยลดระดับของ CRP และ ESR และอาการปวดข้อได้ดีกว่ากลุ่มที่ใช้ยา diclofenac เพียงอย่างเดียว
เอกสารอ้างอิง
- Sundaram, M. S., Hemshekhar, M., Santhosh, M. S., Paul, M., Sunitha, K., Thushara, R. M., … & Girish, K. S. (2015). Tamarind seed (Tamarindus indica) extract ameliorates adjuvant-induced arthritis via regulating the mediators of cartilage/bone degeneration, inflammation and oxidative stress. Scientific reports, 5(1), 11117.
- Prasad, N., Vinay, V., & Srivastava, A. (2023). Efficacy of a proprietary combination of Tamarindus indica seeds and Curcuma longa rhizome extracts in osteoarthritis: a clinical investigation. Food & Nutrition Research, 67, 10-29219.
- Zeng, L., Yu, G., Hao, W., Yang, K., & Chen, H. (2021). The efficacy and safety of Curcuma longa extract and curcumin supplements on osteoarthritis: a systematic review and meta-analysis. Bioscience reports, 41(6), BSR20210817.
- Onakpoya IJ, Spencer EA, Heneghan CJ, Thompson MJ. Effectiveness of curcuminoids in the treatment of osteoarthritis: a systematic review and meta-analysis of randomized clinical trials. Clin Rheumatol. 2017 Nov;36(11):2109–2117. doi:10.1007/s10067-017-3703
- Chandran B, Goel A. A randomized, pilot study to assess the efficacy and safety of curcumin in patients with active rheumatoid arthritis. Phytother Res. 2012 Nov;26(11):1719–25. doi:10.1002/ptr.4639.